วันที่ 3 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะเริ่มทดลองขายสลากตัวเลขสามหลัก “N3” จำนวน 2 ล้านรายการ ฉบับละ 20 บาท ในระบบทดสอบแบบปิด (Sandbox) ให้กับประชาชนทั่วไป ตั้งแต่งวดวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 หรือจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป...
โดยจะเก็บรวมรวมข้อมูลการจำหน่าย ผลกระทบต่อลูกค้าและกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งผลต่อการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน และจะเริ่มจำหน่ายเต็มรูปแบบได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 เป็นต้นไป
ช่วงทดลองจำหน่าย 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ 17 ตุลาคม 2567-มีนาคม 2568 จะเปิดขายสลาก N3 กำหนดการซื้อแต่ละงวด เริ่มต้นที่ 2 ล้านชุดเลขหมาย วงเงินในการซื้อขาย 40 ล้านบาท
สำหรับวัตถุประสงค์ของการออกจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก N3 เพื่อดึงราคาสลากใบที่ยังเกินราคาลงมา และได้ผลทางอ้อม คือ เนื่องจาก N3 มีรูปแบบใกล้เคียงกับ หวยใต้ดิน ซึ่งคาดว่าจะดึงเงินออกจากระบบหวยใต้ดินได้ โดยปัจจุบันมีข้อมูลจากงานวิจัย พบว่า หวยใต้ดินมีมูลค่าสูงถึง 100,000-300,000 ล้านบาทต่อปี...
พันโทหนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลักในระบบทดสอบแบบปิด (Sandbox) จะจำหน่ายในราคาใบละ 20 บาท สามารถเลือกซื้อได้ทุกหมายเลข ตั้งแต่ 000-999 ไม่มีเลขอั้น
โดยผู้ซื้อสามารถซื้อสลากในช่วงทดสอบจำหน่ายได้ที่ “ร้านค้าโครงการสลาก 80 ทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ” กว่า 400 แห่งทั่วประเทศ สามารถสแกนตรวจสอบจุดจำหน่ายได้จากแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง และทำรายการซื้อสลากพร้อมชำระเงินผ่านอุปกรณ์ที่สำนักงานสลากฯ ได้ติดตั้งไว้ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของโครงการที่ต้องชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลเท่านั้น
สำหรับประเภทสมทบเงินรางวัล กำหนด 4 รางวัล ดังนี้
ออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง วันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน
ด้านสัดส่วนเงินรางวัล จากเงินรางวัล 60% นั้น แบ่งเป็น
สำหรับการจัดสรรรายได้จากการจำหน่าย ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1.เป็นเงินรางวัล 60% ส่วนที่ 2.ไม่น้อยกว่า 23% เป็นรายได้แผ่นดิน และส่วนที่ 3.ไม่เกินกว่า 17% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน
สำหรับเงินรางวัลเป็นรูปแบบผันแปรตามจำนวนผู้ซื้อในแต่ละหมายเลขที่ถูกรางวัลในงวดนั้น ๆ
ทั้งนี้ หากประเภทรางวัลใดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะสมทบเงินรางวัลดังกล่าวไปยังงวดถัดไป ตามประเภทรางวัล และหากในงวดถัดไปไม่มีผู้ถูกรางวัลอีก จะต้องนำเงินที่สมทบดังกล่าวนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
สำหรับการจ่ายรางวัล ผู้ที่ถูกรางวัลจะได้รับการเตือนในแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง และสามารถกดรับเงินรางวัลผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังได้ทันที โดยจะต้องมีการชำระค่าอากรแสตมป์ในอัตรา 1 บาท ต่อเงินรางวัล 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท และการรับเงินโดยวิธีการโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีธนาคาร โดยธนาคารกรุงไทย ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
พันโทหนุนกล่าวว่า สำนักงานสลากฯจะจำหน่ายสลากด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์ ไม่ให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สามารถซื้อสลากได้ การกำหนดพื้นที่ในการจำหน่ายสลากห้ามใกล้กับสถานศึกษา เช่นเดียวกับสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักแบบดิจิทัล
สลากแบบเลขท้าย 3 ตัวและ 2 ตัว เกิดจากมติคณะรัฐมนตรี (8 กรกฎาคม 2546) ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร (ยศในขณะนั้น) หวยบนดินพิมพ์จําหน่ายเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ แบบราคาฉบับละ 20 บาท แบบราคาฉบับละ 50 บาท และแบบราคาฉบับละ 100 บาท ตามจํานวนการสั่งจองของตัวแทนจําหน่ายซึ่งมีอยู่ทั่วประเทศ
โดยแต่ละงวดจะมีจํานวนไม่เท่ากัน (ออกจำหน่ายงวดแรก 1 สิงหาคม 2546 และงวดสุดท้าย 16 พฤศจิกายน 2549 รวม 80 งวด มีรายได้เข้ารัฐ 135,000 ล้านบาท ข้อมูล : กองสลาก)
รางวัลสลากแบ่งเป็น 3 ตัวตรง, 3 ตัวโต๊ด, 2 ตัวบน, 2 ตัวล่าง ผู้ซื้อสามารถเลือกเลขใดก็ได้กรอกลงในช่อง ภายในสลากจะมีการกรอกชื่อผู้ขายเพื่อการตรวจสอบ ส่วนการออกเลขรางวัลนั้นใช้หมายเลขเดียวกันกับสลากกินแบ่งรัฐบาล
ส่วนรางวัลนั้นตายตัว คือ เลขท้าย 2 ตัว บาทละ 65 บาท เลขท้าย 3 ตัว บาทละ 500 บาท และ 3 ตัวโต๊ด บาทละ 100 บาท จ่ายรางวัลเหมือนกับหวยใต้ดิน และมีรางวัลใหญ่เป็นแรงจูงใจถึง 20 ล้านบาท
วัตถุประสงค์ในการออกหวยบนดินก็คือ ต้องการทําลายเครือข่ายหวยใต้ดินที่มีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง และต้องการนํารายได้จากหวยมาใช้ประโยชน์
วันที่ 19 กันยายน 2549 รัฐบาลนายทักษิณถูกรัฐประหาร และแต่งตั้ง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นรองนายกฯและ รมว.คัลง สั่งแก้ไขให้หวยบนดินถูกต้อง
21 พฤศจิกายน 2549 นำเรื่องเข้า ครม. โดยให้เว้นการออกหวยบนดินไป 2 งวด และ 29 พฤศจิกายน นำเข้าสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ม.ร.ว.ปรีดิยาธรโดนถล่มหนัก วันถัดมา ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้จึงถูกถอนออกจากสภา หวยบนดินเลยเลื่อนยาวไม่มีกำหนด
ต่อมา สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ (และอดีตรัฐมนตรี-ผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลรวม 47 คน) ในคดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 2 และ 3 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (หวยบนดิน) ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ในปี 2563 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวินิจฉัยว่า “…เงินรายได้จากโครงการนี้ แม้ว่าโครงการนี้จะทำให้มีรายได้จากการขายสลากกว่า 1.2 แสนล้านบาท แต่การบริหารงานกลับขาดทุน 7 งวด เป็นเงินกว่า 1.6 พันล้านบาท ทำให้เห็นว่าโครงการนี้ไม่ได้มีการบริหารความเสี่ยงในการจ่ายเงินให้กับผู้ที่ถูกรางวัล…”
“…อีกทั้งเงินรายได้กว่าร้อยละ 80 ที่สมทบเข้ากองทุนจ่ายเงินรางวัลและส่วนหนึ่งต้องนำกลับคืนสู่สังคม แต่กลับมีการ ‘ใช้เงินไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์’ ไม่มีรายละเอียดการใช้จ่าย ซึ่งขัดต่อหลักการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงพิพากษาให้ลงโทษจำคุกนายทักษิณเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ส่วนความผิดฐานยักยอกทรัพย์ศาลยกฟ้อง…”
“…แม้หักค่าใช้จ่าย ค่าตอบแทน เงินสมทบ ค่าบริหารและเงินคืนสู่สังคมแล้ว ก็ยังคงมีเงินรวมประมาณนับแสนล้านบาทที่ไม่ได้นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน เงินจำนวนดังกล่าวจะต้องนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน แต่คณะรัฐมนตรีกลับมีมติให้นำเงินของรัฐออกไปใช้โดยไม่มีสิทธิ จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และเป็นการปฏิบัติหน้าที่ในการแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้…โครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว และ 2 ตัว (หวยบนดิน) ไม่ใช่การออกสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือสลากการกุศลงวดพิเศษ แต่เป็นการออกสลากกินรวบ…”
ข้อมูล : มติชนสุดสัปดาห์